ไม่ว่าคุณจะกำลังเริ่มต้นธุรกิจ สร้างแบรนด์ หรือทำอาชีพเสริมในปี 2026 เว็บไซต์ของคุณมักจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนเห็นเมื่อเข้ามาค้นหาคุณบนโลกออนไลน์
แต่ในยุคที่การแข่งขันทางดิจิทัลเข้มข้นกว่าที่เคย ผู้บริโภคคาดหวังสูงขึ้น สมาธิสั้นลง และเทรนด์ก็เปลี่ยนเร็วแบบก้าวต่อก้าว เว็บไซต์ที่เชื่องช้าหรือดูเก่าอาจกลายเป็นตัวฉุดรั้งธุรกิจของคุณ ในขณะที่เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว ใช้งานง่ายบนมือถือ และออกแบบอย่างมืออาชีพสามารถเปิดประตูสู่ลูกค้าใหม่และช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจต้นทุนค่าทำเว็บไซต์จึงสำคัญกว่าที่เคย เพราะตอนนี้มีเครื่องมือและแพลตฟอร์มให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เว็บบิลเดอร์ที่ใช้ AI ไปจนถึงเอเจนซี่แบบครบวงจร ซึ่งทำให้คุณอาจใช้เงินเกินจำเป็น ลงทุนน้อยเกินไป หรือทุ่มงบไปกับสิ่งที่ไม่ตรงเป้าหมายก็ได้ การรู้ว่าอะไรที่ควรคาดหวัง (และอะไรที่ควรเลี่ยง) จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ชาญฉลาด วางงบประมาณได้อย่างเป็นจริง และสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณอย่างแท้จริง
มาเจาะลึกกันว่าค่าทำเว็บไซต์ในปี 2026 ต้องใช้เงินเท่าไร เพื่อให้คุณเปิดตัวได้อย่างมั่นใจและใช้ทุกบาทอย่างคุ้มค่าที่สุด
ค่าทำเว็บไซต์ ต้องใช้งบฯ เท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการออกแบบเว็บไซต์อยู่ที่ประมาณ 15,000 ถึง 300,000 บาทต่อโปรเจ็กต์ โดยมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ทั้งค่าชื่อโดเมน โฮสติ้ง และ ดีไซน์เว็บไซต์
คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ 3 วิธีหลัก ได้แก่
- ใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์
- ใช้ WordPress
- พัฒนาเว็บไซต์แบบ Custom ตั้งแต่ต้น
ค่าทำเว็บไซต์ หมวดเครื่องมือ
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดมักมีเครื่องมือแบบลากและวาง ทำให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ในไม่กี่นาที หลายตัวยังมาพร้อมกับเทมเพลตเพื่อให้คุณสามารถทำเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นอีกด้วย
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์มักจะฟรี แต่ในการเผยแพร่เว็บไซต์และใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง คุณอาจต้องจ่ายเงิน ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและแผนที่คุณเลือก ค่าใช้จ่ายอาจอยู่ระหว่าง 3,000 ถึง 15,000 บาทต่อปี
มาดูรายละเอียดค่าทำเว็บไซต์ในหมวดของเครื่องมือกัน
|
ค่าทำเว็บไซต์ |
Shopify |
Squarespace |
GoDaddy |
Wix |
Weebly |
|---|---|---|---|---|---|
|
ราคาเริ่มต้น |
900 บาทต่อเดือน |
500 บาทต่อเดือน |
300 บาทต่อเดือน |
550 บาทต่อเดือน |
300 บาทต่อเดือน |
|
เทมเพลตที่สร้างไว้แล้ว |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
|
รวมโฮสติ้งเว็บ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
|
ใบรับรอง SSL |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
✔️ |
|
โดเมนเนมฟรี |
✖️ |
✔️ |
✖️ |
✔️ |
✖️ |
|
สร้างสำหรับอีคอมเมิร์ซ |
✔️ |
✖️ |
✖️ |
✖️ |
✖️ |
ค่าใช้จ่ายเว็บไซต์ตามประเภทธุรกิจ
ค่าทำเว็บไซต์ยังขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ เช่น หากคุณต้องการฟีเจอร์สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น
นี่คือการแบ่งค่าใช้จ่ายเว็บไซต์สำหรับธุรกิจประเภทต่าง ๆ
ธุรกิจขนาดเล็ก
เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กมักประกอบด้วยหน้าแรก หน้าเกี่ยวกับเรา หน้าสินค้า และข้อมูลติดต่อ เว็บไซต์เหล่านี้ต้องการการเขียนโปรแกรมแบบกำหนดเองน้อยกว่าและการเชื่อมต่อระบบต่าง ๆ น้อยกว่า จึงมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
ค่าทำเว็บไซต์เฉลี่ย: 30,000 ถึง 1,500,000 บาท
องค์กร
ในหลายกรณี เว็บไซต์ขององค์กรขนาดใหญ่ต้องการการปรับแต่งมาก มีหลายหน้า ระบบนำทางขั้นสูง และการเชื่อมต่อกับเครื่องมือหรือระบบอื่น ๆ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะต้องใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่แข็งแรง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
ค่าทำเว็บไซต์เฉลี่ย: 300,000 ถึง 3,000,000 บาท
อีคอมเมิร์ซ
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ตะกร้าสินค้า การประมวลผลการชำระเงิน การจัดการสินค้าคงคลัง และระบบจัดการลูกค้า ล้วนเพิ่มค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด
หากคุณต้องการเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีฟีเจอร์สำเร็จรูปพร้อมใช้งาน การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ เช่น Shopify เป็นตัวเลือกที่ดี โดยเริ่มต้นที่ 900 บาทต่อเดือน
ค่าทำเว็บไซต์เฉลี่ย: 15,000 ถึง 300,000 บาท
บริการ
เว็บไซต์ที่เน้นบริการมีฟังก์ชันการทำงานสูง รวมถึงระบบการจองนัดหมาย การรวมระบบการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และบริการแชท ราคาจะแตกต่างกันไปตามการปรับแต่ง
ค่าทำเว็บไซต์เฉลี่ย: 15,000 ถึง 600,000 บาท
5 ปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อค่าทำเว็บไซต์
1. ชื่อโดเมน
ชื่อโดเมนคือที่อยู่สำหรับเว็บไซต์ของคุณ
คุณมักจะได้รับชื่อโดเมนฟรีจากซอฟต์แวร์สร้างเว็บไซต์ของคุณ แต่หากต้องการชื่อที่กำหนดเอง คุณต้องซื้อ ซึ่งมักจะผ่านผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมน ผู้ค้าของ Shopify สามารถซื้อชื่อโดเมนผ่านแพลตฟอร์ม Shopify ได้
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของชื่อโดเมน
- ระหว่าง 300 ถึง 900 บาทต่อปี
2. การออกแบบเว็บไซต์
แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ชั้นนำมีเครื่องมือออกแบบเว็บในตัว ซึ่งมักเริ่มต้นด้วยเทมเพลตเว็บไซต์พื้นฐาน (ใน Shopify เรียกว่า ธีม) ที่คุณสามารถเพิ่มภาพ บล็อกข้อความ และวิดีโอได้ สำหรับเว็บไซต์ที่กำหนดเองทั้งหมด คุณอาจต้องใช้บริการของนักออกแบบเว็บไซต์มืออาชีพหรือบริษัทออกแบบเว็บไซต์
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการออกแบบเว็บไซต์:
- ธีมที่สร้างไว้แล้ว: 0 ถึง 6,000 บาท
- การออกแบบและพัฒนาที่กำหนดเอง: 60,000 ถึง 600,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อน ฟีเจอร์ และฟังก์ชันการทำงาน
3. โฮสติ้งเว็บไซต์
เนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณอยู่บนเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ และเซิร์ฟเวอร์นั้นจะแสดงข้อมูลเว็บไซต์ของคุณให้กับผู้ใช้ที่พิมพ์ URL ของเว็บไซต์ของคุณ นี่เรียกว่าโฮสติ้งเว็บไซต์
ธุรกิจใช้แผนโฮสติ้งเว็บที่แตกต่างกันหลายประเภท รวมถึงโฮสติ้งแบบแชร์ (ที่หลายเว็บไซต์แชร์เซิร์ฟเวอร์เดียวกัน เช่น ในโมเดลของ Shopify) และโฮสติ้งเฉพาะ (ที่ธุรกิจของคุณได้รับเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด)
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของโฮสติ้งเว็บ
- ระหว่าง 150 ถึง 7,500 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับแผนและผู้ให้บริการ)
4. ฟังก์ชันการทำงานของอีคอมเมิร์ซ
หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กของคุณรวมถึงร้านค้าออนไลน์ คุณต้องแพลตฟอร์มการสร้างเว็บไซต์ที่รองรับอีคอมเมิร์ซ
ในหลายกรณี นี่ต้องการการซื้อธีมพรีเมียมจากเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ยังต้องลงทะเบียนกับผู้ประมวลผลการชำระเงิน เช่น Shopify Payments ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของฟังก์ชันการทำงานของอีคอมเมิร์ซ
- โอเพนซอร์ส (WooCommerce, Magento หรือ PrestaShop): ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด แต่คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินสำหรับส่วนขยาย ปลั๊กอิน และธีม
- โซลูชันที่โฮสต์ (Shopify, BigCommerce หรือ Wix): 600 ถึง 9,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับแผนและฟีเจอร์
5. SSL
เว็บไซต์ธุรกิจต้องการการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยเพื่อจัดการธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเริ่มต้นด้วยการขอใบรับรอง SSL ซึ่งสร้างการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสระหว่างเว็บไซต์ของคุณและเว็บเบราว์เซอร์ของผู้เข้าชม
ผู้ใช้ Shopify จะได้รับใบรับรอง SSL ประเภทหนึ่งที่เรียกว่าใบรับรองความปลอดภัยของชั้นการขนส่ง (TLS) ใบรับรอง SSL ขั้นสูง เช่น ใบรับรองที่ตรวจสอบโดยองค์กร (OV) หรือใบรับรองการตรวจสอบที่ขยาย (EV) อาจมีค่าใช้จ่ายหลายร้อยถึงหลายพันบาทต่อปี
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของ SSL
- SSL พื้นฐาน: 0 บาท (ฟรีกับ Shopify และผู้ให้บริการโฮสติ้งบางราย) ถึง 6,000 บาทต่อปี
- SSL ขั้นสูง: 30,000 บาทขึ้นไปต่อปี
ค่าใช้จ่ายแฝงต้องพิจารณาเมื่อสร้างเว็บไซต์
ค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์ของคุณอาจขยายไปไกลกว่าค่าใช้จ่ายของเครื่องมือสร้างเว็บไซต์และนักออกแบบเว็บ คุณอาจพบว่าต้องจัดสรรงบประมาณสำหรับรายการเพิ่มเติม เช่น
การรวมระบบของบุคคลที่สาม
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณอาจใช้แอปและปลั๊กอินพรีเมียมจากบุคคลที่สาม เช่น ที่พบใน Shopify App Store แอปเหล่านี้ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ ตั้งแต่การจัดส่งไปจนถึงการตลาดและการรวมโซเชียลมีเดีย และอาจมีค่าธรรมเนียมรายเดือน
ธีม
ธีม หรือแม่แบบสำเร็จรูป กำหนดรูปลักษณ์และการจัดวางของเว็บไซต์คุณ โดยมีให้เลือกสองประเภทคือ ฟรีและพรีเมียม ธีมฟรีเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ธีมฟรีที่ Shopify มีให้มักมีคุณสมบัติหลายอย่างเหมือนกับธีมพรีเมียมที่ต้องชำระเงิน
ธีมพรีเมียมที่สร้างโดย Shopify Partners มอบตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ ตัวอย่างเช่น ธีมพรีเมียมอาจรองรับการเคลื่อนไหวหรือการปรับรูปแบบตัวอักษรได้มากขึ้น คุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับธีมพรีเมียม แต่จะช่วยให้คุณปรับแต่งรูปลักษณ์และความรู้สึกของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น
ค่าลิขสิทธิ์สำหรับภาพ
ค่าใช้จ่ายที่ถูกมองข้ามอีกอย่างหนึ่งของการทำเว็บไซต์คือภาพถ่าย ภาพคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างภาพลักษณ์ออนไลน์ที่เป็นมืออาชีพ หากคุณไม่สามารถจ้างช่างภาพได้ คุณสามารถขอลิขสิทธิ์ภาพจากเว็บไซต์อย่าง Shutterstock, Adobe Stock หรือ Getty Images ภาพที่สร้างโดย AI เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่คุณจะต้องทราบถึงกฎเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ความเป็นส่วนตัว และการใช้งานที่จะแตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม AI ด้วย
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับประเภทของลิขสิทธิ์
- ไม่มีค่าลิขสิทธิ์: คุณจ่ายค่าธรรมเนียมครั้งเดียวเพื่อใช้ภาพเหล่านี้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
- จัดการสิทธิ์: ลิขสิทธิ์นี้อนุญาตให้คุณใช้ภาพสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ มีราคาแพงกว่าและมีข้อจำกัดมากกว่าภาพที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์
- Creative Commons: มักจะใช้ฟรี แต่มีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่น คุณอาจไม่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าได้
- AI: คุณอาจต้องจ่ายเงินสำหรับโปรแกรมเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเป็นเจ้าของสิทธิ์ในภาพที่สร้างขึ้น
โดยรวมแล้ว ภาพที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์สามารถมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 300 ถึงหลายพันบาท ภาพที่จัดการสิทธิ์อาจมีราคาสูงกว่าขึ้นอยู่กับสิทธิ์ในการใช้งานของคุณ
SEO
การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับเครื่องมือค้นหา (SEO) ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERPs) การปรับแต่งสำหรับเครื่องมือค้นหาอาจใช้เวลาและเงิน
อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยเครื่องมือ SEO ฟรี ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการค้นหาของคุณ แต่แพลตฟอร์มฟรีส่วนใหญ่จะผลักดันให้คุณไปสู่การสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน กลยุทธ์ SEO ยังอาจเกี่ยวข้องกับการเขียนคอนเทนต์ SEO ซึ่งอาจต้องจ่ายเงินให้กับทีมเขียนหรือจ้างเอเจนซี่การตลาดคอนเทนท์
ค่าบำรุงรักษาเว็บไซต์
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณสร้างเว็บไซต์ของคุณ การรักษาให้เว็บไซต์ออนไลน์จะต้องมีค่าธรรมเนียมบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
|
บริการ |
ช่วงราคา |
|---|---|
|
ชื่อโดเมน |
300 ถึง 900 บาทต่อปี |
|
โฮสติ้งเว็บ |
60 ถึง 15,000 บาทต่อเดือน |
|
ใบรับรอง SSL |
0 ถึง 25,500 บาทต่อปี |
|
การอัปเดต CMS |
0 ถึง 105,000 บาทต่อเดือน |
|
SEO |
0 ถึง 24,000 บาทต่อเดือน |
|
การสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูล |
600 ถึง 15,000 บาทต่อเดือน |
ชื่อโดเมน
ชื่อโดเมนมักมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 300 ถึง 900 บาทต่อปี
ค่าใช้จ่ายของชื่อโดเมนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความนิยมของชื่อเฉพาะ ชื่อโดเมนที่น่าสนใจหรือเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ได้รับความนิยมอาจมีราคาแพงกว่า
โฮสติ้งเว็บ
ค่าใช้จ่ายโฮสติ้งเว็บอาจอยู่ระหว่าง 60 ถึง 15,000 บาทต่อเดือน
ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ มีประเภทโฮสติ้งที่แตกต่างกัน รวมถึงโฮสติ้งแบบแชร์ เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือน เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ และโฮสติ้งคลาวด์ แต่ละประเภทมีระดับทรัพยากรและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน
ใบรับรอง SSL
ใบรับรอง SSL มีค่าใช้จ่ายระหว่าง 0 ถึง 25,500 บาทต่อปี
มีใบรับรอง SSL หลายประเภท เช่น ใบรับรองที่ตรวจสอบโดเมน (DV) ใบรับรองที่ตรวจสอบองค์กร (OV) และใบรับรองการตรวจสอบที่ขยาย (EV) ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นสำหรับกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น
การอัปเดตระบบจัดการเนื้อหา (CMS)
CMS มีค่าใช้จ่ายระหว่าง 0 ถึง 105,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้แพลตฟอร์มฟรีหรือแพลตฟอร์มที่ต้องจ่ายเงิน บริการที่ต้องจ่ายเงินมักรวมถึงการสนับสนุนด้านเทคนิค การอัปเดตด้านความปลอดภัย และการอัปเดตแพลตฟอร์มที่บ่อยขึ้น ซึ่งสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
SEO (การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับเครื่องมือค้นหา)
ค่าทำเว็บไซต์เพื่อการตลาด SEO อาจจะเริ่มตั้งแต่ 0 บาทจากการทำด้วยตัวเอง ไปจนถึง 24,000 บาทต่อเดือนสำหรับบริการพื้นฐานจากเอเจนซี่
การทำ SEO ด้วยตัวเองอาจไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายนอกจากเวลา ในขณะที่การจ้างเอเจนซี่ SEO หรือที่ปรึกษาอาจมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่สูง
การสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูล
การสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลอาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 600 ถึง 15,000 บาทต่อเดือน
ขนาดข้อมูลมีผลต่อราคา และเนื่องจากชุดข้อมูลที่ใหญ่กว่าต้องการทรัพยากรมากขึ้น จึงมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น การสำรองข้อมูลบ่อยครั้งหรือแบบเรียลไทม์ยังสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้
เราจะประหยัดค่าทำเว็บไซต์ได้ยังไง
เว็บไซต์ของคุณอาจต้องสร้างในงบประมาณ ขึ้นอยู่กับสถานะของธุรกิจของคุณ วิธีการประหยัดค่าทำเว็บไซต์ ได้แก่
- เลือกการชำระเงินรายปีแทนรายเดือน: เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีตัวเลือกการเรียกเก็บเงินรายเดือนและรายปี ผู้ให้บริการหลายรายเสนอส่วนลดสำหรับการชำระเงินรายปี การชำระเงินรายปีสามารถช่วยประหยัดได้ตั้งแต่ 10% ถึง 25% จากราคาต่อเดือน
- จำกัดการพัฒนาที่กำหนดเอง: ฟีเจอร์ที่กำหนดเองสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก การจ้างนักพัฒนาเว็บฟรีแลนซ์หรือบริษัทออกแบบอาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 60,000 ถึง 300,000 บาทในการเริ่มต้น
- ใช้ธีมและปลั๊กอินฟรี: แพลตฟอร์มหลายแห่งเสนอเทมเพลตฟรีในการสร้างเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินฟรีหรือราคาไม่แพงเพื่อปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ของคุณ Shopify App Store มีปลั๊กอินฟรีสำหรับทุกอย่างตั้งแต่การตลาดทางอีเมลไปจนถึงความเร็วหน้าและเครื่องมือการขายเพิ่มเติมสำหรับผู้ค้า
- ทำด้วยตัวเอง: อย่างที่กล่าวไว้ ผู้ให้บริการอย่าง Shopify มีเครื่องมือแบบลากและวางเพื่อสร้างและจัดการเว็บไซต์ของคุณ Shopify มาพร้อมกับฟีเจอร์ในตัว เช่น SSL โฮสติ้งโดเมน การประมวลผลการชำระเงิน การจัดการสินค้าคงคลัง และอื่นๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว
เว็บไซต์ที่มีคุณภาพสามารถยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกระดับ ด้วยเครื่องมือที่มีราคาไม่แพงมากมาย คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและสร้างยอดขายได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าทำเว็บไซต์
มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ฟรีหรือไม่
มีตัวสร้างเว็บไซต์ฟรีหลายตัว เช่น Google Sites และแพลนฟรีของตัวสร้างเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Shopify, Wix, Squarespace และ GoDaddy เว็บไซต์ที่สร้างฟรีมักมีฟังก์ชันจำกัด แต่ก็เพียงพอสำหรับคนที่ต้องการแค่หน้าแลนดิ้งง่าย ๆ ที่ฝังข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ
ควรตั้งค่าทำเว็บไซต์เท่าไรสำหรับชื่อโดเมนและบริการโฮสติ้ง
โดยทั่วไป ชื่อโดเมน .com มีค่าใช้จ่ายราว 300–600 บาทต่อปี (บางชื่ออาจสูงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความนิยม) ส่วนบริการโฮสติ้งอยู่ที่ประมาณ 300–750 บาทต่อเดือน หากใช้ Shopify คุณไม่ต้องแยกจ่ายค่าโฮสติ้ง เพราะระบบรวมทุกอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมเครื่องมืออีคอมเมิร์ซครบ แผนเริ่มต้นเพียง 1,200 บาทต่อเดือน
การทำเว็บไซต์ให้รองรับมือถือมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
ปัจจุบัน เว็บไซต์ส่วนใหญ่รองรับมือถือโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะหากใช้แพลตฟอร์มอย่าง Shopify ที่มีธีมพร้อมใช้งานบนทุกอุปกรณ์อยู่แล้ว แต่หากต้องการปรับเว็บไซต์เฉพาะทางหรือออกแบบใหม่ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 15,000–150,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของดีไซน์และระบบ
การทำการตลาดและโฆษณาเว็บไซต์ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดดิจิทัลอยู่ที่ประมาณ 1,500-300,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ กลยุทธ์ที่ใช้ และช่องทางโฆษณา เช่น Google Ads หรือ Meta Ads หากใช้ Shopify คุณสามารถทำการตลาดและดูผลลัพธ์ได้จากแดชบอร์ดเดียว ช่วยควบคุมงบและวัดผลได้ง่ายกว่า
ค่าทำเว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ที่มีระบบสมัครสมาชิกและเข้าสู่ระบบขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกสร้าง หากใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูปอย่าง Shopify ราคาจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 0 บาท (เพียงจ่ายค่ารายเดือนของแพ็กเกจ Shopify) ไปจนถึงราว 30,000–50,000 บาท หากต้องการปรับดีไซน์หรือเพิ่มฟีเจอร์เฉพาะทางเพิ่มเติม
สำหรับร้าน Shopify สามารถเริ่มได้ง่ายโดยใช้แอป Appstle Memberships จาก Shopify App Store เพื่อสร้างระบบสมาชิกและสมัครรับข้อมูล โดยเริ่มต้นฟรีได้สูงสุด 50 สมาชิก


