ไลฟ์ขายของคงจะอยู่กับเราต่อไป
นับตั้งแต่เทรนด์การช้อปปิ้งแบบใหม่นี้เริ่มต้นขึ้นในเอเชียด้วย Taobao Live ของ Alibaba เราจึงสนใจติดตามกระแสไลฟ์อีคอมเมิร์ซในประเทศตะวันตกจะเป็นอย่างไร และผลสรุปก็คือ ไลฟ์อีคอมเมิร์ซยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
คาดว่าขนาดตลาดไลฟ์อีคอมเมิร์ซจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกสามปีข้างหน้าในสหรัฐอเมริกา จาก 1.02 ล้านล้านบาทในปี 2566 เป็น 2.18 ล้านล้านบาท
ไลฟ์ขายของผสานรวมประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ที่ดีที่สุดเข้าด้วยกัน ทำให้การซื้อสินค้าไม่ใช่แค่เพียงการทำธุรกรรม แต่ยังสร้างการมีส่วนร่วม ความสนุกสนาน และสร้างความไว้วางใจในระยะยาว
นี่คือสิ่งที่ไลฟ์ขายของสามารถทำได้สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ รวมถึงวิธีเริ่มต้นใช้งาน รวมถึงแพลตฟอร์มที่ควรพิจารณาสำหรับการไลฟ์ขายของแบบสตรีม และเคล็ดลับที่จะทำให้แคมเปญการไลฟ์ขายของของคุณประสบความสำเร็จ
ไลฟ์ขายของคืออะไร
ไลฟ์ขายของเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่อาศัยการไลฟ์สตรีม ซึ่งผู้ชายจะนำเสนอสินค้าและผู้ชมสามารถซื้อสินค้าเหล่านั้นได้แบบเรียลไทม์
ไลฟ์ขายของเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายบนเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง แต่นั่นไม่ใช่วิธีเดียวที่ไลฟ์ขายของเกิดขึ้น อินฟลูเอนเซอร์ก็สามารถไลฟ์สตรีมได้เช่นกัน เช่นเดียวกับคนทั่วไป ซึ่งด้วยแพลตฟอร์มอย่าง Amazon Live และ Poshmark’s Posh Shows
ตัวอย่างกิจกรรมไลฟ์ขายของจาก Skincare (ที่มา)
แนวคิดการใช้วิดีโอไลฟ์เพื่อโปรโมตสินค้าและกระตุ้นให้ผู้คนซื้อสินค้าไม่ใช่เรื่องใหม่ Home Shopping Network เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการเสนอขายสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านโทรทัศน์ เช่น สินค้าใช้ในบ้าน ความงาม และแฟชั่นในช่วงทศวรรษ 1980 โดยเชิญชวนให้ผู้ชมโทรศัพท์สั่งซื้อสินค้าที่เพิ่งเห็นบนหน้าจอโทรทัศน์
รูปแบบปัจจุบันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแค่เปลี่ยนจากโทรทัศน์เป็นโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนจากเครือข่ายโทรทัศน์เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเปลี่ยนจากสายด่วน Call Now เป็นปุ่ม Buy Now อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบสำคัญของการขายผ่านโซเชียลมีเดียยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ มีระบบฟีดแบ็กแบบเรียลไทม์สำหรับผู้ซื้อ รวมถึงการรีวิวสินค้า การสาธิตสินค้า และโอกาสในการถามคำถาม
การไลฟ์ขายของออนไลน์รูปแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 2553 และเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา ในปี 2564 อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่า 11.57 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเวลาเพียงสองปี แตะที่ 4.9 ล้านล้านบาท
ประเทศตะวันตกยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้แต่กำลังตามให้ทัน โดย 14% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเคยซื้อสินค้าจากอีเวนต์ไลฟ์ขายของ และ 19% สนใจที่จะเข้าร่วม
การนำกลยุทธ์ไลฟ์ขายของมาใช้นั้นมีทั้งโอกาสและศักยภาพ นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์นี้
ไลฟ์ขายของ มีลักษณะยังไง
ไลฟ์ขายของมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ
- อยู่ในรูปแบบวิดีโอ
- เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ (ต่างจากการบันทึกไว้ล่วงหน้า)
- โดยจะชี้ไปที่สินค้าที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ (ผ่านลิงก์ แท็ก ความคิดเห็นที่ปักหมุด และองค์ประกอบออนไลน์อื่นๆ)
กิจกรรมไลฟ์ขายของสามารถจัดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย บนแพลตฟอร์มไลฟ์ขายของแบบดั้งเดิม หรือบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือของผู้ค้าปลีก (จะอธิบายเพิ่มเติมในภายหลัง)
โดยปกติแล้วจะมีผู้เข้าร่วมอย่างน้อยหนึ่งคนนำเสนอสินค้าระหว่างการไลฟ์สตรีม เช่น ลองสินค้า สาธิตวิธีใช้ นำเสนอประโยชน์ของสินค้า หรือแบ่งปันเคล็ดลับเพื่อใช้ประโยชน์จากสินค้าให้ได้มากที่สุด
ผู้ชมไลฟ์สตรีมสามารถสามารถโต้ตอบกับผู้ขายผ่านไลฟ์แชทเพื่อแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า หรือถามคำถามที่จะช่วยให้พวกเขาซื้อสินค้าที่ตรงกับความต้องการ
ผู้ชมสามารถดูและคลิกลิงก์สำหรับสินค้าที่กล่าวถึงในไลฟ์สตรีมได้บริเวณรอบๆ หน้าจอ ซึ่งมักจะเป็นป๊อปอัป แถบด้านข้าง หรือความคิดเห็นที่ปักหมุด ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม พวกเขาสามารถดูและซื้อสินค้าภายในอินเทอร์เฟซ หรือไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์เพื่อดำเนินการสั่งซื้อให้เสร็จสมบูรณ์
แบรนด์ต่างๆ มักเสนอโค้ดส่วนลด ข้อเสนอพิเศษ และโบนัสอื่นๆ ที่ใช้ได้เฉพาะในระหว่างการไลฟ์ขายของ ทำให้ลูกค้าร่วมสนุกและเข้าร่วมไลฟ์สตรีมมากขึ้น
ประโยชน์ของการไลฟ์ชอปปิ้งคืออะไร
ไลฟ์ขายของเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ ควบคู่ไปกับตลาดออนไลน์ เว็บไซต์แบรนด์ โซเชียลคอมเมิร์ซ วอยซ์คอมเมิร์ซ และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ผู้คนในหลายๆ ประเทศยังเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการซื้อสินค้ามากขึ้นผ่านรูปแบบการช้อปปิ้งรูปแบบดังกล่าวนี้ นี่คือเหตุผลที่คุณควรให้ความสำคัญกับการไลฟ์ช้อปปิ้ง
ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วน ได้รับแรงบันดาลใจ และมีส่วนร่วมมากขึ้น
การไลฟ์ขายของช่วยช่วยให้คุณใส่ข้อมูลสินค้าได้มากขึ้นภายในระยะเวลาที่สั้นลง แทนที่จะให้ลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ใส่ข้อมูลสินค้าเอง เช่น ระบุสินค้าที่ต้องการ อ่านรีวิว ดูวิดีโอหลายรายการ ดูรูปภาพหลายสิบรูปในหน้าสินค้า คุณสามารถนำเสนอทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้ได้ภายในไม่กี่นาทีระหว่างการไลฟ์สดขายของ
ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น
แม้การได้รับส่วนลดสุดพิเศษจะเป็นจะเป็นข้อดีหลักของไลฟ์ขายของสำหรับผู้บริโภค แต่ข้อดีที่ตามมาคือแรงบันดาลใจและไอเดีย การช้อปปิ้งที่ชาญฉลาดขึ้น การมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์ และการแนะนำสินค้า กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเสนอส่วนลดเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดของแคมเปญ และจะนำผู้ชมและลูกค้าใหม่ๆ มาหาคุณ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณและการกระตุ้นการมีส่วนร่วมคือสิ่งที่จะทำให้พวกเขาอยู่กับคุณต่อไป
ประโยชน์จากการช้อปปิ้งผ่านไลฟ์สตรีมทั่วโลกในปี 2565 (ที่มา)
การสำรวจล่าสุดพบผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยผู้ซื้อในสหรัฐฯ ร้อยละ 42 กล่าวว่ารูปแบบการไลฟ์สตรีมนั้นสนุก และร้อยละ 35 ระบุว่าเป็นวิธีที่ทำให้ได้ข้อเสนอที่ดีกว่า
อัตรา Conversion ที่สูงขึ้นและการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น
ไลฟ์สดขายของสามารถยกระดับการเปิดตัวสินค้าและอัตรา Conversion โดยรวมของคุณได้
ยกตัวอย่าง Tru Earth บริษัทผงซักฟอกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบรนด์นี้มักพบเห็นจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และการมีส่วนร่วมของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างกิจกรรมไลฟ์สด "เราเห็น Conversion เพิ่มขึ้น 20% ระหว่างการเปิดตัวสินค้าเมื่อเร็วๆ นี้" Ryan McKenzie ผู้ร่วมก่อตั้ง Tru Earth กล่าว "กิจกรรมไลฟ์สดขายของมีส่วนช่วยสร้างรายได้สำคัญในแต่ละวัน”
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Buywith แพลตฟอร์มไลฟ์จากการสัมมนาออนไลน์เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ใช้ของพวกเขาเพิ่มอัตรา Conversion ขึ้น 10 เท่า ผ่านประสบการณ์การไลฟ์อีคอมเมิร์ซ
Printemps ผู้ค้าปลีกแฟชั่นก็ได้รับผลตอบแทนสูงจากการใช้แพลตฟอร์ม Bambuser เป็นประจำ กรณีศึกษาล่าสุดระบุว่าแบรนด์มีการแสดงผลมากกว่า 300,000 ครั้งในไลฟ์อีเว้นต์ของพวกเขา โดย 20% ของผู้ชมเป็นผู้ชมที่กลับมาชมซ้ำ และอีเว้นต์เหล่านี้สร้างยอดขายให้กับพันธมิตรได้มากกว่า 40%
ศักยภาพในการเป็นช่องทางการเติบโตระยะยาว
ด้วยผลลัพธ์ที่น่าประทับใจเหล่านี้ แบรนด์ที่ได้ลองใช้แคมเปญขายของไลฟ์แล้วคงไม่มีกลับไปใช้วิธีการขายแบบเดิม
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งของ Coresight Research แสดงให้เห็นว่างานไลฟ์สดขายของที่จัดขึ้นเป็นประจำช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สร้างฐานผู้ชมซ้ำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ชมไลฟ์สตรีมกว่าครึ่งรายงานว่ารับชมไลฟ์สตรีมที่ซื้อสินค้าได้หลายครั้งต่อสัปดาห์
เช่นเดียวกับโฆษณาแบบชำระเงิน SEO และการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ไลฟ์ขายของอาจกลายเป็นส่วนสำคัญในปริศนาทางการตลาดสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการผลลัพธ์ในระยะยาว
Coresight ประเมินว่าการช้อปปิ้งผ่านไลฟ์สตรีมจะมีสัดส่วนมากกว่า 5% ของยอดขายอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2569 Weinswig ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าบริษัทต่างๆ ที่กำลังพัฒนาตัวเองด้วยไลฟ์สตรีมอาจเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 25%
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจของคุณควรให้โอกาสไลฟ์ขายของ
วิธีเริ่มต้นไลฟ์สดขายของ
คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อทดลองใช้ไลฟ์ขายของครั้งแรกของคุณได้ ธีมหลักคือทำให้ง่าย เพื่อให้คุณได้เรียนรู้จากประสบการณ์และขยายขอบเขตการจัดอีเว้นต์ในอนาคต
- เลือกสินค้าที่คุณต้องการโปรโมต: ไม่เกิน 10 รายการ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยสินค้าขายดี หรือสินค้าที่เพิ่งเปิดตัว วิธีนี้จะช่วยให้คุณสร้างข้อความที่เกี่ยวข้องกับการลดราคาเมื่อโปรโมตอีเว้นต์ได้เช่นกัน
- เลือกวัน เวลา และระยะเวลาของงานไลฟ์ขายของ: สำหรับไลฟ์ขายของครั้งแรกของคุณ หลีกเลี่ยงช่วงเวลาช้อปปิ้งยอดนิยมอย่าง Black Friday และเลือกเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่ำ เลือกเวลาตามเขตเวลาหลักของกลุ่มเป้าหมายและฐานลูกค้าปัจจุบันของคุณ
- เลือกรูปแบบ: ตัวอย่างเช่น การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญหรืออินฟลูเอนเซอร์ บทแนะนำวิธีการ (เช่น การสาธิตการจัดแต่งทรงผม) หรือรูปแบบเบื้องหลังที่แสดงวิธีการเตรียมคำสั่งซื้อสำหรับการจัดส่ง เตรียมโครงร่างเนื้อหาที่คุณจะนำเสนอโดยอิงจากรูปแบบและสินค้าที่คุณเลือก
- ตัดสินใจว่าคุณจะจัดงานอีเวนต์ที่ไหน: YouTube เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ง่ายที่สุด แต่เราจะพูดถึงตัวเลือกอื่นๆ เพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่ตัวเลือกเดียว แทนที่จะพยายามสตรีมไปยังห้าแพลตฟอร์มพร้อมกัน
- โปรโมตอีเวนต์ไลฟ์สตรีมช้อปปิ้งของคุณ: ใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดที่คุณใช้เป็นประจำ เพื่อให้ผู้ชมทราบว่าพวกเขาสามารถโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณแบบเรียลไทม์ ได้เมื่อใดและที่ไหน รวมถึงสิ่งที่คาดหวังจากอีเวนต์ เช่น ระยะเวลา ส่วนลดและโบนัสต่างๆ ที่จะมอบให้ และรูปแบบโดยรวม
- เตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยีของคุณ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นตามรูปแบบอีเวนต์ที่คุณเลือก รวมถึงเว็บแคม ไฟเสริม ขาตั้งกล้อง และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณจะใช้
แพลตฟอร์มไลฟ์ขายของออนไลน์
เครื่องมือสำหรับการช้อปปิ้งผ่านไลฟ์สตรีมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
- แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- เครื่องมือช้อปปิ้งแบบไลฟ์สตรีมสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ
- แพลตฟอร์มช้อปปิ้งแบบไลฟ์สตรีม
1. แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
หมวดหมู่นี้ประกอบด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังที่ผสานรวมความสามารถในการไลฟ์สตรีมเข้ากับฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ
ต้องยอมรับว่า Facebook และ Instagram เคยอยู่ในหมวดหมู่นี้มาก่อน แต่ Meta ได้ปิดบริการไลฟ์ชอปปิ้งบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ
YouTube
ในฐานะแบรนด์ของ Google จึงไม่น่าแปลกใจที่ YouTube จะเป็นผู้นำในด้านความสามารถในการชอปปิ้ง อุปสรรคในการเข้าถึงนั้นแทบจะเป็นศูนย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ YouTube ได้ร่วมมือกับ Shopify และทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถนำเข้าสินค้าจากแค็ตตาล็อกได้อย่างง่ายดาย

ตัวอย่างของอีเว้นต์ไลฟ์ขายของบน YouTube (ที่มา)
TikTok
TikTok ได้สร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะแพลตฟอร์มที่ผสานรวมความบันเทิงและการช้อปปิ้งเข้าด้วยกัน การค้นหาคำว่า "TikTok made me buy it" มียอดวิวมากกว่า 7 พันล้านครั้ง และแพลตฟอร์มนี้มักถูกขนานนามว่าขายสินค้าจำนวนมากหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว
หากคุณอยู่ในประเทศที่มีฟีเจอร์ TikTok Shop ซึ่ง ณ กลางปี 2567 ครอบคลุมสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และสิงคโปร์ บอกเลยว่าคุ้มค่าที่จะลอง
TikTok Shop (ที่มา)
Pinterest TV
Pinterest เปิดตัว Pinterest TV ซึ่งเป็นซีรีส์ที่คัดสรรมาอย่างดีประกอบด้วยไลฟ์คอนเทนต์ ตอนออริจินัล และตอนช้อปปิ้ง เมื่อปลายปี 2564 เดิมที Pinterest TV นำเสนอคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ที่คัดสรรมาอย่างดี แต่ตอนนี้ครีเอเตอร์ทุกคนมีสิทธิ์สมัครแล้ว
ก่อนเทศกาลวันหยุดปี 2065 Pinterest TV ได้เปิดตัวอีเวนต์ช้อปปิ้งช่วงเทศกาลวันหยุด นำเสนอคอนเทนต์จากแบรนด์ดังอย่าง JENNY BIRD, Wayfair, NUDESTIX และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการไลฟ์สดขายของสำหรับผู้ค้า
ปัจจุบัน Pinterest TV มีให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และเยอรมนีเท่านั้น
Pinterest TV (ที่มา)
2. เครื่องมือไลฟ์ขายของสำหรับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องมือเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อผสานรวมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ของแบรนด์อีคอมเมิร์ซ เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและเว็บไซต์ เพื่อดำเนินการสตรีมสด
นี่อาจไม่ใช่ตัวเลือกทั้งหมด แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
Bambuser
Bambuser เป็นเทคโนโลยีช้อปปิ้งผ่านรูปแบบวิดีโอที่ช่วยให้คุณสร้างวิดีโอที่มีอยู่ให้สามารถช้อปปิ้งได้ หรือจัดเซสชันไลฟ์ขายของแบบอินเทอร์แอคทีฟ นอกจากการจัดอีเว้นต์แบบหนึ่งต่อหลายคนซึ่งเป็นรูปแบบไลฟ์สตรีมทั่วไปแล้ว คุณยังสามารถใช้ Bambuser เพื่อจัดเซสชันการช้อปปิ้งแบบตัวต่อตัวกับลูกค้าแต่ละรายได้อีกด้วย
Bambuser ให้บริการแก่ผู้ค้าปลีกทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมถึง Bloomingdale’s, Pai Skincare และ HUGO BOSS ธุรกิจต่างๆ บน Shopify สามารถผสานรวม Bambuser เข้ากับร้านค้าได้อย่างง่ายดาย
สินค้าหนึ่งต่อหลายคนของ Bambuser (ที่มา)
Now Live
Now Live คือซอฟต์แวร์ไลฟ์ขายของที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับร้านค้า Shopify ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเลือกดูและซื้อสินค้าจากวิดีโอไลฟ์ผ่านกระบวนการชำระเงินที่พวกเขาคุ้นเคยและไว้วางใจอยู่แล้ว
แบรนด์เครื่องประดับ Modern Gents ใช้โซลูชันของ Now Live นี่คือหนึ่งในหน้าลงทะเบียนอีเว้นต์ของพวกเขา
หน้าอีเว้นต์ของ Modern Gents (ที่มา)
Livescale
Livescale คือโซลูชันไลฟ์ขายของที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ต่างๆ เช่น Kiehl’s, Dermalogica, Tatcha และ Giorgio Armani Livescale โดดเด่นด้วยการโปรโมตเซสชั่นไลฟ์ที่กำลังจะมาถึงของลูกค้าอย่างชาญฉลาด ทั้งบนเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดีย
ธุรกิจ Shopify อย่าง Three Ships Beauty ต่างชื่นชอบ Livescale "ในอีเวนต์หนึ่งชั่วโมงแรกของเรา เราได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 350 รายการจากลูกค้าที่มี LTV สูง การใช้ Livescale ถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดของเรา เราโปรโมตอีเวนต์ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวสินค้าและโปรโมชันใหญ่" อ่านรีวิวจาก Three Ships Beauty ในหน้า Livescale + Shopify
อีเว้นต์ไลฟ์ขายของที่กำลังจะมีขึ้นบน Livescale โดย Giorgio Armani (ที่มา)
Emplifi
Emplifi นำเสนอโซลูชันไลฟ์สดทั้งแบบหนึ่งต่อหนึ่งและหนึ่งต่อหลายคน ควบคู่ไปกับฟีเจอร์โซเชียลมีเดียและโซเชียลคอมเมิร์ซอื่นๆ อีกมากมาย Emplifi ให้บริการแบรนด์ต่างๆ เช่น Pandora, HP และ Marks & Spencer
ระหว่างการไลฟ์สตรีม ธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกวิดีโอคอลแบบตัวต่อตัวกับผู้ชมที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมระหว่างการช้อปปิ้งได้
แพลตฟอร์ม Emplify (ที่มา)
3. แพลตฟอร์มช้อปปิ้งแบบไลฟ์สตรีม
ในที่สุด เราก็มีแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมขายของ ซึ่งทุกคนเข้าถึงได้ ตั้งแต่ผู้บริโภคที่ต้องการแบ่งปันความหลงใหลในสินค้า ไปจนถึงอินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์ต่างๆ
สิ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มไลฟ์สดแตกต่างจากเครื่องมือไลฟ์ขายของคือความสามารถในการค้นพบ: ลูกค้าสามารถเรียกดูรายการได้หลายสิบรายการ และอาจค้นพบแพลตฟอร์มของคุณได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความพยายามทางการตลาดของคุณในการเข้าถึงพวกเขา
มาดูแอปและแพลตฟอร์มไลฟ์ขายของยอดนิยมกัน
Amazon Live
Amazon Live ช่วยให้ครีเอเตอร์และแบรนด์ต่างๆ เข้าถึงและเชื่อมต่อกับนักช้อป Amazon คุณสามารถไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์มได้ ตราบใดที่คุณเป็นผู้ขายมืออาชีพในสหรัฐอเมริกาที่ลงทะเบียนกับ Amazon Brand Registry เป็นผู้ขายในสหรัฐอเมริกาที่มีร้านค้า Amazon ที่ได้รับอนุมัติ หรือเป็น Amazon Influencer
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากคุณขายสินค้าบน Amazon คุณสามารถลองใช้ Amazon Live ได้ ในแถบเลื่อนสินค้าด้านล่างวิดีโอไลฟ์ ทำให้เป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งที่คุ้นเคยและดื่มด่ำ
ตัวอย่าง Amazon Live (ที่มา)
ShopShops
ShopShops คือแอปช้อปปิ้งแบบไลฟ์สตรีมสำหรับสินค้าแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ บริษัททำงานร่วมกับทั้งแบรนด์ ร้านค้า และร้านค้าปลีกอิสระ รวมถึงโฮสต์ที่จัดรายการช้อปปิ้งผ่านไลฟ์สตรีม
ณ เดือนเมษายน 2566 แพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้ประมาณ 2.7 ล้านคนทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง วิดีโอไลฟ์แบบแนวตั้งเป็นช่องทางหลักบน ShopShops เนื่องจากแพลตฟอร์มทำงานผ่านแอปบนมือถือ
เว็บไซต์ของ ShopShops (ที่มา)
TalkShopLive
TalkShopLive เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคอมเมิร์ซ ด้วยฟีเจอร์จุดขายในตัวที่รวมอยู่ในโปรแกรมเล่นวิดีโอ ทำให้การขายและการช้อปปิ้งราบรื่นยิ่งขึ้น
ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Walmart ศิลปินอย่าง Kelly Clarkson และ Ed Sheeran และธุรกิจอย่าง La Bella Donna ต่างก็ใช้ประโยชน์จากความสามารถอันทรงพลังของ TalkShopLive ผู้ชมสามารถค้นหาวิดีโอสอนการใช้งาน สินค้ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น และคู่มือการช้อปปิ้งได้ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม และเชื่อมต่อกับแบรนด์และครีเอเตอร์คนโปรด
สิ่งที่ดีที่สุด คุณสามารถรวม TalkShopLive เข้ากับร้าน Shopify ของคุณคุณได้โดยตรง
อีเว้นต์ไลฟ์ขายของของ La Bella Donna บน TalkShopLive (ที่มา)
NTWRK
NTWRK คือแพลตฟอร์มวิดีโอไลฟ์สตรีมที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงกลุ่มคนรุ่น Gen Z และกลุ่มมิลเลนเนียล
รูปแบบของเว็บไซต์ของ NTWRK ออกแบบมาเพื่อนำผู้เข้าชมไปยังหมวดหมู่สินค้าที่พวกเขาสนใจมากที่สุด เช่น รองเท้า งานศิลปะ หรือเครื่องประดับ ทั้งบุคคลทั่วไปและแบรนด์ต่างๆ สามารถสมัครขายสินค้าผ่าน NTWRK ได้
หมวดหมู่รายการของ NTWRK (ที่มา)
แนวทางปฏิบัติที่ดีและเทคนิคไลฟ์สตรีมมิ่งขายของ
ตอนนี้มาดูแบรนด์บางแบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากไลฟ์สดขายของกันดีกว่า
มอบโบนัสและสิ่งจูงใจสุดพิเศษให้กับผู้ชมไลฟ์
FOMO หรือความกลัวว่าจะพลาดโอกาสสำคัญๆ เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้ชมตัดสินใจซื้อสินค้า เมื่อพูดถึงไลฟ์ขายของ การมอบข้อเสนอพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่นให้กับผู้เข้ามาชมไลฟ์นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกได้รับผลตอบแทนและความเคารพที่เข้ามาชมและสละเวลาและพลังงานให้กับคุณ
ข้อเสนอพิเศษนี้อาจเป็นโค้ดส่วนลด สินค้าฟรีเมื่อสั่งซื้อ สินค้ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หรือของแจกฟรี ขึ้นอยู่กับคุณ
ตัวอย่างเช่น POPFLEX ได้ปักหมุดคอมเมนต์ด้วยโค้ดส่วนลดสำหรับผู้ชมที่ชมไลฟ์อีเว้นต์ก่อน Black Friday
โค้ดส่วนลดสำหรับผู้ชมไลฟ์ระหว่างงานของ POPFLEX (ที่มา)
บูรณาการการไลฟ์สตรีมขายของกับโปรแกรมสะสมคะแนน
หากคุณมีโปรแกรมสะสมคะแนน การรวมโปรแกรมดังกล่าวเข้ากับไลฟ์สตรีมของคุณจะช่วยยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับผู้ชมได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าที่เข้าสู่ระบบเข้าร่วมอีเวนต์ไลฟ์ขายของของคุณ คุณสามารถเพิ่มสินค้าที่คุณพูดถึงลงในรายการสินค้าที่อยากได้ในบัญชีของพวกเขา หรือส่งอีเมลสรุปให้พวกเขาในภายหลังก็ได้
ร้านขายยา DM ของเยอรมนีใช้แนวทางนี้ในแคมเปญไลฟ์สดขายของ ในตลาดโครเอเชีย DM จัดเซสชันไลฟ์ขายของสองสามครั้งต่อเดือนและจำกัดการรับชมเฉพาะผู้ที่มีบัญชีช้อปปิ้งเท่านั้น ระหว่างการไลฟ์ ผู้เชี่ยวชาญจะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อของเซสชัน และผู้ชมสามารถดูสินค้าที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นได้โดยแตะที่รายการที่มุม
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชมที่เข้าร่วมไลฟ์อีเวนต์จะได้รับคูปองคะแนนพิเศษในบัญชีสะสมคะแนนหากซื้อสินค้า
เว็บไซต์ DM โปรโมตไลฟ์สตรีมที่กำลังจะมาถึงและสิทธิประโยชน์ต่างๆ (ที่มา)
แสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสินค้าของคุณและกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด
ประสบการณ์ไลฟ์ขายของสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ชมในการซื้อสินค้าที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การขายมีประสิทธิภาพในฐานะกลยุทธ์
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความมั่นใจนี้คือการระบุให้ชัดเจนเมื่อพูดถึงสินค้า แทนที่จะใช้คำพูดคลุมเครือที่อาจฟังดูเกินจริง ให้พูดถึงประสบการณ์จริงหรือประโยชน์ที่ผู้คนต้องการจากสินค้านั้นๆ
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังพูดถึงครีมกันแดด แทนที่จะพูดว่า "นี่คือ SPF ที่ดีที่สุดที่คุณเคยลอง" ให้พูดว่า "SPF นี้จะเหมาะกับคนที่มีผิวมันและต้องการ SPF สูตรบางเบาสำหรับรองพื้น"
คุณสามารถเห็นสิ่งนี้ในทางปฏิบัติได้ในไลฟ์สตรีมที่จัดโดยแบรนด์เครื่องประดับ Celeste Sol ในไลฟ์สตรีม ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแบรนด์ Tiffany Joachim กล่าวว่า "หากคุณไม่ชอบรู้สึกหนักที่หู สินค้านี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะมันเบาเหมือนอากาศ ไม่ทำให้เจ็บเวลาใส่หรือรบกวนความรู้สึกใดๆ ที่หูของคุณ"
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอเสนอวิธีแก้ปัญหาเฉพาะที่แน่นอน
งานไลฟ์ขายของของ Celeste Sol บน ShopShops (ที่มา)
ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์หรือคนดังที่กลุ่มเป้าหมายของคุณชื่นชอบ
การร่วมมือกับบุคคลที่กลุ่มเป้าหมายของคุณชื่นชอบอยู่แล้วนั้นคุ้มค่า
ประการแรก ลูกค้าและผู้ติดตามปัจจุบันของคุณมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมมากขึ้น เพราะนั่นจะทำให้พวกเขามีโอกาสได้มีส่วนร่วมกับบุคคลนั้น และประการที่สอง คุณจะขยายการเข้าถึงของคุณ เพราะบุคคลที่คุณกำลังร่วมมือด้วยมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ชมบางส่วนของพวกเขาให้เข้าร่วมการไลฟ์สตรีม
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่คุณกำลังร่วมมือด้วยสำหรับอีเวนต์ไลฟ์อาจมีตั้งแต่นาโน-อินฟลูเอนเซอร์ไปจนถึงบุคคลสำคัญในวงการ คนดัง และแม้แต่แบรนด์ที่เกี่ยวข้องที่ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงของคุณ
Snug บริษัทผลิตโซฟา ได้ร่วมมือกับนักแสดงตลก Katherine Ryan ซึ่งสร้างการเติบโตในการจองการให้คำปรึกษาออนไลน์ถึง 160% และยอดขายเพิ่มขึ้น 450% หลังจากมีผู้ใช้งานมากกว่า 6,000 คนเข้าร่วมไลฟ์สตรีม
โพสต์บน Twitter โปรโมตอีเว้นต์ไลฟ์ขายของของ Snug (ที่มา)
ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในงานอีเวนต์ของของ Snug ซึ่งเป็นงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นทั้งแบบพบปะกันตัวต่อตัวและไลฟ์สตรีม โดย Snug ได้นำเสนอวงดนตรียุค 2000s เพื่อดึงดูดฐานลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล มีผู้เข้าชิงตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ตมากกว่า 11,600 และงานอีเวนต์นี้สร้างยอดการแสดงผลบนโซเชียลมีเดียมากกว่า 100,000 ครั้ง
ให้ความสำคัญกับความจริงใจและการมีส่วนร่วม
สุดท้ายนี้ ไลฟ์ขายของเป็นช่องทางการตลาดและการขายแบบสองทาง หากคุณสนใจแค่การพูดมากกว่าการฟัง การ ไลฟ์สตรีมของคุณก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ
HeftyBerry แบรนด์ที่จำหน่ายพวงหรีดแฮนด์เมดและของตกแต่งภายในทำมือ ใช้แนวทางที่เน้นความจริงใจและสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,600,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง
"คุณต้องให้ความสำคัญกับความจริงใจและการมีส่วนร่วมเหนือสิ่งอื่นใด" Ilia Mundut ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ HeftyBerry กล่าว "การสร้างประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟให้กับลูกค้า ซึ่งพวกเขาสามารถถามคำถามและให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์ได้ จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นชุมชนรอบ ๆ แบรนด์ของคุณ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความภักดีและการกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ”
ยกตัวอย่างจาก Printemps ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของฝรั่งเศสที่ต้องการก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งด้วยการสร้างโอกาสเพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า "เรามุ่งมั่นที่จะใช้ทักษะภายในองค์กรเพื่อทำให้การไลฟ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและสร้างรายได้ในระยะยาวและสร้างชุมชน" Maud Funaro หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเปลี่ยนแปลงของ Printemps กล่าวใน กรณีศึกษาไลฟ์ขายของ
Printemps ต้องการให้ผู้ชมและลูกค้ารู้สึกสบายใจกับประสบการณ์นี้ จึงได้ฝังไลฟ์ขายของไว้ในเว็บไซต์ โดยให้ผู้ชมโหวตเลือกช่วงเวลาของการไลฟ์สตรีม และผู้ชมจะได้เรียนรู้จากผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวของ Printemps ที่พวกเขารู้จักและชื่นชอบอยู่แล้ว
หน้าไลฟ์ขายของของ Printemps (ที่มา)
การไลฟ์ขายของกับอนาคตอีคอมเมิร์ซ
มีโอกาสที่ลูกค้าของคุณปรารถนาการเชื่อมต่อมากขึ้น เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณ และสัมผัสประสบการณ์ที่ดื่มด่ำกับแบรนด์ของคุณได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการไลฟ์ขายของสามารถมอบสิ่งนั้นได้อย่างแท้จริง
อนาคตของอีคอมเมิร์ซคือการทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์ราบรื่นและผสมผสานระหว่างช่องทางต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย ไม่ว่าคุณจะเลือกไลฟ์สตรีมด้วยตัวเองหรือผ่านพันธมิตร การไลฟ์สตรีมสามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วม การเติบโต และผลลัพธ์ระยะยาวให้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณได้
ความสมจริง ความเป็นส่วนตัว และการพูดคุยกับลูกค้าอย่างจริงใจที่มาพร้อมกับการไลฟ์สตรีม = ความไว้วางใจที่มากขึ้น ยอดขายที่มากขึ้น และความภักดีที่มากขึ้น คุ้มค่าที่จะลองไลฟ์สตรีมดู
เช็ค Shopify App Store และดูว่าแอปใดบ้างที่สามารถช่วยให้คุณไลฟ์สตรีมได้ตั้งแต่วันนี้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการไลฟ์ขายของ
การช้อปปิ้งออนไลน์แบบไลฟ์คืออะไร
ไลฟ์ขายของออนไลน์คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ผสมผสานไลฟ์วิดีโอเข้ากับฟีเจอร์การช้อปปิ้งออนไลน์ ช่วยให้ผู้ชมสามารถเลือกชมและซื้อสินค้าได้แบบเรียลไทม์ระหว่างการไลฟ์สตรีม
การไลฟ์ขายของคืออะไร
ไลฟ์ขายของคืออีเวนต์ไลฟ์สตรีมออนไลน์ ซึ่งโฮสต์หนึ่งคนหรือมากกว่าจะสาธิตสินค้าหรือสอนการใช้งาน และเชิญชวนผู้ชมให้แสดงความคิดเห็น ถามคำถาม และซื้อสินค้า อีเวนต์ไลฟ์เซลล์มักกระตุ้นให้เกิดอัตรา Conversion ที่สูงขึ้น อัตราการคืนสินค้าที่ต่ำลง และฐานลูกค้าที่มีส่วนร่วมสูงขึ้น
ไลฟ์ขายของบน TikTok คืออะไร
การไลฟ์ชอปปิ้งบน TikTok ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถไลฟ์สตรีมเพื่อขายสินค้าได้ โดยผู้ชมสามารถเรียกดูและซื้อสินค้าที่กล่าวถึงในการไลฟ์สตรีมได้โดยไม่ต้องออกจากแอป TikTok
ไลฟ์ขายของมีลักษณะยังไง
การไลฟ์ชอปปิ้งมีองค์ประกอบสามประการ ได้แก่ ในรูปแบบวิดีโอ แบบเรียลไทม์ และลิงก์ไปยังสินค้าที่อยู่บนวิดีโอ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้บนโซเชียลมีเดีย บนแพลตฟอร์มไลฟ์ชอปปิ้ง หรือบนเว็บไซต์ของร้านค้า
ผู้ชมไลฟ์สตรีมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้า ถามคำถามเกี่ยวกับสินค้าผ่านคอมเมนต์ และชำระเงินได้อย่างราบรื่น และมักจะได้รับส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษเป็นรางวัลสำหรับการรับชมไลฟ์


