ถ้าคุณอยากเปิดร้านหนังสือ เราก็มีข้อมูลที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ในปี 2024 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐฯ ขายไปได้ 767 ล้านเล่ม ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับทศวรรษก่อนหน้า
การทำดรอปชิปหนังสือเป็นวิธีที่เริ่มได้ง่าย ถ้าคุณไม่อยากเก็บหนังสือหลายเล่มไว้ในคลังสินค้า รูปแบบธุรกิจอย่างดรอปชิปหนังสือจะช่วยให้คุณขายหนังสือได้โดยที่มีผู้จัดจำหน่ายดูแลเรื่องการจัดส่งให้ คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการคลังสินค้าหรือการขนส่งเลย
ในบทความนี้ คุณจะได้ศึกษาประโยชน์ของการดรอปชิปหนังสือ ขั้นตอนพื้นฐานในการเริ่มต้น และซัพพลายเออร์ดรอปชิปหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
ดรอปชิปหนังสือทำได้จริงมั้ย?
จริง นี่คือธุรกิจที่คุณทำได้ เพราะจริง ๆ แล้ว หนังสือนั้นมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้เป็นสินค้าที่เหมาะกับการดรอปชิป ทั้งในเรื่องของขนาดที่เล็ก มีน้ำหนักเบา และความต้องการที่มีอยู่ทั่วโลก
สำหรับการเริ่มดรอปชิปหนังสือ คุณจะต้องสร้างร้านค้าออนไลน์และทำความรู้จักกับซัพพลายเออร์ที่น่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าซื้อหนังสือของคุณ ผู้ขายหนังสือที่เป็นบุคคลที่สามที่คุณเลือกจะได้รับการแจ้งให้ทราบ และจะจัดส่งสินค้าจากคลังสินค้าเลยโดยตรง
ประโยชน์ของการดรอปชิปหนังสือ
การที่ไม่ต้องเก็บสินค้าไว้ในคลังคือประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดของการดรอปชิปหนังสือ นั่นคือคุณจะขายหนังสือได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดเก็บและการจัดส่ง ซึ่งช่วยให้คุณใช้ทรัพยากรที่มีมาดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
และข้อดีของการดรอปชิปหนังสือก็ยังไม่หมดแค่นี้
- เป็นตลาดที่กำลังเติบโต - ถึงแม้หนังสือออนไลน์, หนังสือเสียง, Kindle และรูปแบบดิจิทัลอื่น ๆ คือสิ่งที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่คนก็ยังชอบหนังสือแบบเป็นเล่มกระดาษอยู่ดี โดยในประเทศไทย 65% ของคนวัยผู้ใหญ่อ่านหนังสือพิมพ์ในช่วง 12 เดือนหลังสุด
- มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย - มีหนังสือให้คุณเลือกกว่า 160 ล้านเล่มจากทั่วโลกในปี 2024 ซึ่งทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณมีตัวเลือกสินค้าอย่างมหาศาล
- ไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ - การเก็บหนังสืออาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่การดรอปชิปหนังสือนั้นทำให้คุณไม่ต้องจัดเก็บหนังสือเองและไม่ต้องจ่ายค่าเช่าคลังสินค้าหรือเครืยดเรื่องความเสียหายเลย
- โอกาสทำเงินแบบ Passive Income - เมื่อคุณสร้างร้านค้าออนไลน์และติดต่อกับซัพลลายเออร์หนังสือของคุณแล้ว การดำเนินการทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
- ตลาดเฉพาะทางที่หลากหลาย - จำนวนหนังสือที่มีอยู่อย่างมหาศาลคือการมีตลาดเฉพาะทางมากมายให้ค้นหา วิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดที่ทำกำไรได้ในโลกออนไลน์
วิธีเริ่มต้นดรอปชิปหนังสือ
ถ้าพร้อมที่จะเริ่มดรอปชิปหนังสือแล้ว เราจะบอกคู่มือแบบทีละขั้นตอนให้คุณ
1. เลือกกลุ่มตลาด
คุณสามารถเลือกใช้กลยุทธ์แบบกระจายความเสี่ยงและขายหนังสือได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่หนังสือระบายสี หนังสือเด็ก นิยาย ไปจนถึงชีวประวัติ หนังสือสูตรอาหาร และสารานุกรม แต่บ่อยครั้งที่การเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะจะได้ผลดีกว่า การวิจัยผลิตภัณฑ์จะช่วยให้คุณเจาะกลุ่มคนรักหนังสือได้ และสร้างคอนเทนต์การตลาดที่โดนใจได้เสมอ
2. ตั้งร้านค้า Shopify
เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายหนังสือแนวไหน ให้เริ่มตั้งร้านค้า Shopify เพื่อนำเสนอสินค้าให้ผู้ชมเห็น อย่าลืมใช้สีแบรนด์ ฟอนต์ และภาพที่ไปในทางเดียวกัน และใส่ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าดรอปชิปของคุณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้วย พยายามใช้ภาพปกหนังสือเพื่อดึงดูดความสนใจ และถ้าเป็นไปได้ ให้เน้นที่หนังสือขายดีของคุณเพื่อเพิ่มยอดขาย
3. เลือกซัพพลายเออร์หนังสือ
พยายามหาข้อมูลของซัพพลายเออร์ดรอปชิปหนังสือที่มีอยู่และตัดสินใจเลือกเจ้าที่เหมาะสมที่สุดตามประเภทของหนังสือที่ซัพพลายเออร์ขาย นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจวิธีการทำงานของซัพพลายเออร์และดูว่ามีค่าธรรมเนียมหรือไม่
4. สร้างกลยุทธ์การตลาด
ทำให้หนังสือของคุณเป็นที่สนใจด้วยการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ผสานรวมช่องทางต่าง ๆ เช่น การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย, การตลาดผ่านอีเมล, การตลาดแบบพันธมิตร, SEO, และการโฆษณาแบบมีค่าใช้จ่าย เพื่อให้เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ เมื่อคุณมีฐานลูกค้าแล้ว ให้รักษาลูกค้าเหล่านั้นด้วยการสร้างความภักดีในระยะยาวผ่านแคมเปญและของรางวัล
6 ซัพพลายเออร์ดรอปชิปหนังสือที่ดีที่สุด
ถ้าจะดรอปชิปหนังสือ คุณจะต้องติดต่อกับซัพพลายเออร์ภายนอก โดยซัพพลายเออร์จะเป็นผู้จัดหาและจัดเก็บหนังสือในคลังสินค้า รวมถึงแพ็กของและจัดส่งหนังสือที่ซื้อให้กับลูกค้า
นี่คือ 6 ซัพพลายเออร์ดรอปชิปหนังสือที่ดีที่สุด
1. AmericanBookCo
AmericanBookCo เน้นที่การขายส่งหนังสือเป็นหลัก คุณสามารถเลือกดูหนังสือได้ 23 หมวดหมู่ ได้แก่ ชีวประวัติ บันเทิง ประวัติศาสตร์ และนิยาย
ราคา: ลด 40% จากราคาขายปลีกปกติ
2. Half Moon Bay
Half Moon Bay เป็นซัพพลายเออร์ดรอปชิปในสหราชอาณาจักรที่มีหนังสือและสินค้าอื่น ๆ มากมาย เลือกดูหนังสือหลายร้อยเล่มในหมวดหมู่ต่างๆ และเชื่อมต่อกับร้านค้า Shopify ของคุณเพื่อการขายที่รวดเร็วและง่ายดาย
ราคา: ใช้ได้ฟรี โดยคุณต้องขออนุญาตและใบรับรองก่อนจึงจะสามารถดรอปชิปสินค้าที่มีแบรนด์ได้
3. Lulu Express
หากคุณต้องการขายหนังสือของตัวเอง Lulu ช่วยให้คุณพิมพ์และขายงานเขียนผ่านระบบดรอปชิปหนังสือได้ โดยจะจัดส่งหนังสือไปยังกว่า 150 ประเทศ ใช้เทมเพลตสำเร็จรูปเพื่อออกแบบปกแข็ง และเชื่อมต่อบัญชีของคุณเข้ากับ Shopify เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ ทำงานแบบอัตโนมัติ
ราคา: ใช้ได้ฟรี โดยคุณจ่ายค่าพิมพ์และจัดส่งหนังสือ
4. AliExpress
AliExpress เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ดรอปชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีหนังสือให้เลือกหลายพันเล่ม ค่าจัดส่งมักจะต่ำมาก และคุณสามารถจัดส่งไปยังกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกได้
ราคา: ใช้งานได้ฟรี โดยคุณต้องรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการผลิตและค่าจัดส่ง
5. IngramSpark
IngramSpark คือแพลตฟอร์มการเผยแพร่ผลงานด้วยตนเองที่ช่วยให้นักเขียนสามารถผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือของตนเองได้ ซึ่ง IngramSpark นั้นไม่ใช่ผู้ให้บริการหนังสือทั่วไป แต่หากคุณกำลังเขียนหนังสือเอง แพลตฟอร์มจะพิมพ์และจัดส่งให้ลูกค้าหลังจากที่ลูกค้าสั่งซื้อ
ราคา: สร้างบัญชีและอัปโหลดหนังสือฉบับพิมพ์หรืออีบุ๊กของคุณได้ฟรี
6. Amazon
Amazon มีฐานลูกค้าจำนวนมากและมีหนังสือให้เลือกหลายพันเล่มเหมือนกับ AliExpress โดยสามารถนำหนังสือจากนักเขียนชั้นนำในหลากหลายสาขามาขายในร้านหนังสือของคุณได้
ราคา: ใช้งานได้ฟรี โดยคุณเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่ง
5 เคล็ดลับเพื่อความสำเร็จในการดรอปชิปหนังสือ
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดรอปชิปหนังสือจะต้องมีซัพพลายเออร์หนังสือที่เชื่อถือได้ ความพึงพอใจของลูกค้านั้นจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วและความปลอดภัยในการจัดส่ง ดังนั้นการเลือกซัพพลายเออร์ที่ใช่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
นี่คือเคล็ดลับเพื่อความสำเร็จ
- อ่านรีวิว - เปรียบเทียบซัพพลายเออร์หนังสือที่น่าสนใจโดยอ่านรีวิวจากลูกค้าปัจจุบัน ดูชื่อเสียงของซัพพลายเออร์และประสบการณ์จากเจ้าของร้านหนังสือรายอื่น
- ขอรายละเอียดทั้งหมด - คุณจะต้องได้รับรายละเอียดหนังสือทั้งหมดจากผู้จัดจำหน่าย รวมถึงน้ำหนัก จำนวนหน้า วัสดุ และสี
- ขายในสิ่งที่รัก - ถ้าคุณมีแนวหนังสือที่ชอบก็ควรมุ่งทางนั้นไปเลย การรู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีจะช่วยให้คุณสร้างข้อความการตลาดที่เหมาะสมได้
- ขายสินค้าที่ถูกต้อง - นอกจากการคิดค้นไอเดียสินค้าและเลือกหนังสือที่จะเอามาในร้านของคุณแล้ว สิ่งสำคัญคือคุณต้องเชื่อมโยงถึงสินค้าที่ถูกต้องด้วย โดยตรวจสอบภาษา ฉบับที่ตีพิมพ์ และคุณลักษณะที่แตกต่าง
- มีจุดขายที่ไม่เหมือนใคร - ในปี 2024 แค่ในสหรัฐอเมริกาก็มีร้านหนังสือมากกว่า 43,000 ร้านแล้ว คุณต้องสร้างความโดดเด่นด้วยการหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา สินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดรอปชิปหนังสือ
ดรอปชิปหนังสือทำกำไรได้จริงมั้ย?
ธุรกิจดรอปชิปหนังสือนั้นทำกำไรให้กับผู้ขายหนังสือได้มาก โดยสามารถเริ่มธุรกิจได้โดยแทบไม่ต้องใช้เงินทุนเลย และไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดเก็บหรือค่าดำเนินการด้วย และยังสามารถลดต้นทุนการจัดส่งได้ด้วยการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรงจากซัพพลายเออร์ที่คุณเลือกได้
เราต้องซื้อหนังสือที่ดรอปชิปหรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป แต่ก็ควรลองสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ของคุณดูเพื่อให้เข้าใจประสบการณ์ในเรื่องของการจัดส่ง บรรจุภัณฑ์ และการควบคุมคุณภาพสินค้าได้ดียิ่งขึ้น
ถ้าไม่ได้มาตรฐานอย่างที่คุณคาดหวัง ก็เลือกซัพพลายเออร์รายอื่นแล้วลองทำแบบเดียวกันได้
การเข้าร่วมธุรกิจดรอปชิปหนังสือยากมั้ย?
การเริ่มทำธุรกิจดรอปชิปหนังสือนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ต้องอาศัยความอดทนและมุ่งมั่นที่จะทำด้วย การตั้งร้านค้าและการหาซัพพลายเออร์นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ที่ยากคือการหากลุ่มเป้าหมายและการรักษาอัตรากำไรที่ยั่งยืน ซึ่งทุกธุรกิจต้องเจอกับปัญหานี้ สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งมั่นพัฒนาการตลาดและการพัฒนาร้านค้าอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าทำได้ โอกาสที่จะสร้างธุรกิจดรอปชิปหนังสือที่ประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น


