ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ฮิเดโอะ โคดามะ นักออกแบบยานยนต์ ได้ยื่นจดสิทธิบัตร 3D Printing หรือการพิมพ์ 3 มิติฉบับแรกสำหรับระบบสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็วที่ใช้แสงยูวีเพื่อทำให้วัสดุแข็งตัวเป็นรูปทรงที่ต้องการ นับแต่นั้นมา นักประดิษฐ์ นักออกแบบ และวิศวกรได้พัฒนาเทคโนโลยี 3D Printing ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กในอุตสาหกรรมการพิมพ์ 3 มิติกำลังเข้าสู่ตลาดที่กำลังเติบโต รายงานฉบับหนึ่งคาดการณ์ว่าตลาดผลิตภัณฑ์และบริการ 3D Printing ทั่วโลกจะมีมูลค่ามากกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2025
หากคุณสนใจเริ่มทำธุรกิจการพิมพ์ 3 มิติ นี่คือไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ที่คุณควรอ่าน
3D Printing คืออะไร?
3D Printing เป็นรูปแบบหนึ่งของการผลิตแบบเติมแต่ง สำหรับการสร้างวัตถุแบบจับต้องได้จากพลาสติก โลหะ ไนลอน และวัสดุอื่น ๆ โดยเครื่องจักรจะใช้แบบจำลอง 3 มิติ รวมถึงเทคโนโลยีการสแกนขั้นสูง และการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ช่วย เพื่อสร้างโครงสร้างที่มีความซับซ้อนสูง
เครื่องพิมพ์ 3D Printing มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ไม่กี่ร้อยถึงหลายพันดอลลาร์สหรัฐตามคุณภาพและประเภท และนี่คือของประเภทเครื่องพิมพ์ 3D 3D Printing ที่ได้รับความนิยม
- Fused deposition modeling (FDM): เครื่องพิมพ์ระดับผู้บริโภคทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้ FDM เพื่อขึ้นรูปวัตถุพลาสติกผ่านหัวฉีดที่ให้ความร้อน
- Stereolithography (SLA): เครื่องพิมพ์ SLA ใช้เลเซอร์ในการทำให้เรซินเหลวแข็งตัวเป็นวัสดุแข็ง
- Selective laser sintering (SLS): เครื่องพิมพ์ SLS จะแปลงผงโพลีเมอร์เป็นวัตถุแข็ง
- Direct metal laser sintering (DMLS): เครื่องพิมพ์ DMLS จะใช้เลเซอร์พลังงานสูงและผงโลหะในการสร้างวัตถุทีละชั้น
- Digital light processing (DLP): โปรเจ็กเตอร์แสงดิจิทัลทำให้เรซินเหลวแข็งตัวเป็นโครงสร้างแข็ง
ไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing
- การสร้างต้นแบบ
- สินค้าสั่งทำ
- รองเท้า
- ของสะสม
- เครื่องประดับ
- ศิลปะ
- อุปกรณ์เสริม
- คอร์สสอนทำ 3D Printing
- หุ่นยนต์
- เคสโทรศัพท์
- ของตกแต่งบ้าน
- โมเดลทางการแพทย์และเครื่องมือฝึกอบรม
- โมเดลสถาปัตยกรรม
- อุปกรณ์เสริมเกม
- การให้เช่าเครื่องพิมพ์ 3D Printing
เนื่องจากการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing นั้นมีมากขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายจึงมองหาไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing เพื่อใช้ประโยชน์จากความต้องการการผลิตแบบออนดีมานด์ที่สามารถสั่งทำได้
นี่คือไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ที่จะช่วยให้คุณทำการขายครั้งแรกได้
1. การสร้างต้นแบบ
เครื่องพิมพ์ 3D Printing สามารถสร้างต้นแบบที่ใช้งานได้สำหรับสินค้าที่คุณตั้งใจจะผลิต คุณสามารถประเมินคุณภาพทางโครงสร้างและภาพลักษณ์ได้ก่อนที่จะลงทุนผลิตจริง
ใช้ต้นแบบเหล่านี้กับซอฟต์แวร์เรนเดอร์ผลิตภัณฑ์ 3D เพื่อให้คุณสามารถดูและแก้ไขงานออกแบบของคุณในพื้นที่เสมือนจริง ปรับเปลี่ยนรูปร่าง เนื้อสัมผัส หรือสี โดยที่ไม่ต้องลงทุนพิมพ์จริง
ในตอนหนึ่งของพอดแคสต์ Shopify Masters ผู้ประกอบการอย่างอเล็กซ์ คอมมอนส์ จาก Bulat Kitchen ได้พูดถึงวิธีที่การพิมพ์ 3D Printing ช่วยให้บริษัทของเขาสร้างต้นแบบมีดพรีเมียมของแบรนด์ก่อนที่จะผลิตจริง
2. สินค้าสั่งทำ
การใช้เทคโนโลยี 3D Printing ช่วยให้คุณปรับแต่งผลิตภัณฑ์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้เครื่องพิมพ์ 3D เพื่อผลิตและขายกรอบแว่นตาหรือหูฟังที่พอดีกับใบหน้าหรือหูของลูกค้าแต่ละคน หรืออุตสาหกรรมการแพทย์ก็ใช้การพิมพ์ 3D ในการสร้างผลิตภัณฑ์อย่างอวัยวะเทียมที่ปรับแต่งได้
3. รองเท้า
แฟชั่นดีไซเนอร์สามารถใช้เครื่องพิมพ์ 3D ในการผลิตรองเท้า และบริษัทแฟชั่นยังสามารถใช้การพิมพ์ 3D ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่ยั่งยืนมากกว่ากระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม ซึ่งมักจะใช้วัสดุที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก
ตัวอย่างเช่น บริษัทรองเท้า Rothy’s ใช้เทคโนโลยีการถักแบบ 3 มิติเพื่อสร้างรองเท้าที่สบาย ซักได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากวัสดุที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งรวมถึงพลาสติกรีไซเคิล
4. ของสะสม
ลองพิจารณาเปิดธุรกิจของสะสมโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อสร้างของขวัญสุดพิเศษ โดยสินค้ายอดนิยมได้แก่ ของจิ๋วและฟิกเกอร์สั่งทำพิเศษ (อาจเป็นของเพื่อน ครอบครัว และสัตว์เลี้ยงของลูกค้า)
สำหรับการเปิดธุรกิจของสะสมด้วยการพิมพ์ 3 มิติ ให้ลองค้นหากลุ่มเป้าหมายและลูกค้าที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้าของคุณ
5. เครื่องประดับ
หากคุณมีความหลงใหลในการทำเครื่องประดับ คุณสามารถใช้โลหะ แว็กซ์ และวัสดุอื่น ๆ ในการพิมพ์สินค้า 3 มิติ อย่างสร้อยคอ กำไล ต่างหู และแหวน โดยนักออกแบบเครื่องประดับยังสามารถสร้างผลงานออกแบบที่ปรับแต่งได้เองอีกด้วย
6. ศิลปะ
นักออกแบบกราฟิกและช่างปั้นสามารถใช้เครื่องพิมพ์ 3D ในการสร้างชิ้นงานศิลปะตามการออกแบบต้นฉบับของตัวเอง โดยการพิมพ์ 3D ช่วยให้สามารถสร้างงานที่ซับซ้อน ซึ่งอาจต้องใช้ความพยายามและเวลามากหากทำด้วยมือ
คุณสามารถจัดแสดงศิลปะที่พิมพ์ 3D ในแกลเลอรีออนไลน์ เช่น Artsy หรือขายงานศิลปะของคุณในตลาดอย่าง Etsy หรือสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซบน Shopify
7. อุปกรณ์เสริม
คุณสามารถใช้เครื่องมือ Additive Manufacturing เพื่อพิมพ์ชิ้นส่วนอะไหล่แบบ 3 มิติสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพิมพ์ชิ้นส่วนที่ขาดหายไปสำหรับเครื่องดนตรี ของเล่น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และยังสามารถใช้การพิมพ์ 3 มิติเพื่อปรับแต่งผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วได้ เช่น การพิมพ์เคสโทรศัพท์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
8. คอร์สสอนทำ 3D Printing
ลองเปิดคลาสเรียนให้ผู้ที่ชื่นชอบและธุรกิจในท้องถิ่นที่ต้องการเรียนรู้วิธีใช้เครื่องพิมพ์ 3D Printing หากคุณมีเครื่องพิมพ์ที่เชื่อถือได้และรู้ขั้นตอนการใช้งาน ลองให้บริการคลาสเรียนที่คุณสอนลูกค้าถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีนี้
9. หุ่นยนต์
ผู้ประกอบการสามารถใช้เครื่องพิมพ์ 3D Printing เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ที่ปรับแต่งได้สำหรับหลากหลายสาขา ทั้งการผลิต การดูแลสุขภาพ และการก่อสร้าง
มีการคาดการณ์ว่าขนาดของตลาดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทั่วโลกจะเกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ซึ่งหมายความว่ามีความสนใจในโซลูชันหุ่นยนต์เพิ่มมากขึ้น บริษัทวิศวกรรมหุ่นยนต์สามารถใช้เทคโนโลยี 3D Printing เพื่อผลิตชิ้นส่วนหุ่นยนต์ที่มีรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อนได้
10. เคสโทรศัพท์
เคสสมาร์ทโฟนแบบพิมพ์ 3 มิติกำลังได้รับความนิยม เพราะแทบทุกคนมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่ต้องการเคสไว้ใส่โทรศัพท์ของตัวเอง โดย Business Research Insights ประเมินว่าตลาดเคสโทรศัพท์ทั่วโลกจะมีมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033
คุณสามารถออกแบบเคสแบบเฉพาะตัวได้ในต้นทุนต่ำ เนื่องจากเคสมีขนาดเล็กและผลิตได้ในราคาไม่แพง และด้วยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopify คุณสามารถขายเคสสมาร์ทโฟนออนไลน์ให้กับใครก็ได้
11. ของตกแต่งบ้าน
ของตกแต่งบ้านเป็นตลาดที่กำลังเติบโต โดยคาดว่าจะมีมูลค่า 139,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2025 โดยมีตลาดอย่างสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีที่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ
นี่คือผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถขายได้
- ของตกแต่งกลางโต๊ะแบบสั่งทำสำหรับงานแต่งงานและอีเวนต์
- ชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปะ
- สินค้าสั่งทำพิเศษจากนักออกแบบตกแต่งภายใน
- ของตกแต่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากคุณสามารถพิมพ์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตามสั่งได้ จึงไม่จำเป็นต้องเก็บสต็อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก
12. โมเดลทางการแพทย์และเครื่องมือฝึกอบรม
โมเดลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พิมพ์แบบ 3 มิติ ช่วยให้สามารถสร้างแบบจำลองทางกายวิภาคที่ถูกต้องสำหรับการวางแผนผ่าตัดและการฝึกอบรมได้ง่ายขึ้น นี่คือตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะมีมูลค่า 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034
การพิมพ์ 3D ช่วยให้แพทย์สามารถปรับแต่งชิ้นส่วนได้ในราคาที่ไม่แพง ซึ่งต่างจากการผลิตจำนวนมาก นี่คือโอกาสทางธุรกิจที่ควรลองดู
- คู่มือการผ่าตัดและโมเดลทางกายวิภาคผู้ป่วย (กลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุด)
- อุปกรณ์เทียมและรากฟันเทียมแบบสั่งทำพิเศษ (กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มูลค่า 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028)
- เครื่องมือฝึกอบรมสำหรับการศึกษาแพทย์
- การใช้งานการพิมพ์ชีวภาพเฉพาะทาง
💡 หมายเหตุ: ไอเดียธุรกิจด้านเทคโนโลยีนี้จำเป็นต้องปฏิบัติตาม HIPAA และได้รับการอนุมัติจาก FDA อย่างชัดเจนสำหรับการใช้งานทางคลินิก
13. โมเดลสถาปัตยกรรม
โมเดลสถาปัตยกรรมช่วยให้ผู้สร้างและลูกค้าเห็นภาพโครงการได้ก่อนที่จะสร้างจริง ช่วยให้มีสิ่งที่จับต้องและมองเห็นได้แทนที่จะดูแบบร่างบนหน้าจอ
นี่คือวิธีสร้างรายได้จากช่องทางนี้
- สร้างโมเดลที่สร้างโดย AI สำหรับสถาปนิกและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- ทำโมเดลที่มีชิ้นส่วนที่ถอดออกได้เพื่อแสดงภายในอาคาร
- ร่วมมือกับนักออกแบบเพื่อสร้างแบบจำลองโครงการที่มีรายละเอียด
- ให้บริการปรับแก้โมเดลทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ
14. อุปกรณ์เสริมเกม
โดยทั่วไปแล้วเกมเมอร์จะชื่นชอบอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบเฉพาะตัวและยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมเหล่านั้น Mordor Intelligence คาดการณ์ว่าตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมจะเติบโตจากมูลค่ากว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 เป็นมากกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030
คุณสามารถสร้างโมเดลจำลองสำหรับเกมอย่าง Dungeons & Dragons ออกแบบโซลูชันการจัดเก็บแบบพิเศษสำหรับเกมกระดานยอดนิยม หรือแม้แต่ร่วมมือกับนักพัฒนาเกมอิสระเพื่อผลิตสินค้าอย่างเป็นทางการสินค้าอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากกลุ่มเกมและผู้เล่นแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน จึงมีความต้องการดีไซน์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
15. การให้เช่าเครื่องพิมพ์ 3D Printing
เครื่องพิมพ์ระดับเริ่มต้นและมือสมัครเล่นมีราคาตั้งแต่ 300 ถึง 900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,798-29,379 บาท) ในขณะที่รุ่นไฮเอนด์มีราคาตั้งแต่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 652,857 บาท) ขึ้นไป นี่คืออีกไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ด้วยการให้เช่าอุปกรณ์
คุณสามารถสร้างโรงงานพิมพ์ 3 มิติที่ผู้อื่นสามารถเช่าอุปกรณ์ได้ โรงงานของคุณจะเป็นผู้จัดหาเครื่องจักร พื้นที่ทำงาน และความเชี่ยวชาญ โดยคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมงหรือรายเดือนจากลูกค้า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing
วัสดุประเภทใดบ้างที่ใช้ในการพิมพ์ 3D Printing ได้?
วัสดุแต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในการพิมพ์ 3 มิติ นี่คือตัวเลือกและการใช้งานที่ดีที่สุดของแต่ละอย่าง
- PLA (กรดโพลิแลคติก): วัตถุตกแต่งและของเล่น
- ABS (อะคริโลไนไตรล์บิวทาไดอีนสไตรีน): ชิ้นส่วนที่ทนทานและต้นแบบ
- PETG (โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลตไกลคอล): ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงและกันน้ำ
- TPU (โพลียูรีเทนเทอร์โมพลาสติก): วัตถุที่ยืดหยุ่น เช่น เคสโทรศัพท์
- ไนลอน: ชิ้นส่วนที่ทนทานและใช้งานได้จริง
- เรซิน: โมเดลขนาดเล็กและเครื่องประดับที่มีรายละเอียด
- เส้นใยโลหะ: ผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นผิวโลหะ
- คาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต: วัตถุที่แข็งแรงและเบา
ใช้เวลานานแค่ไหนในการพิมพ์ชิ้นงาน?
วัตถุขนาดเล็กอย่างเช่นเคสโทรศัพท์จะใช้เวลาพิมพ์ 2-4 ชั่วโมง ในขณะที่วัตถุขนาดใหญ่หรือวัตถุที่มีรายละเอียดมากอาจใช้เวลา 24 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ระยะเวลาในการพิมพ์ขึ้นอยู่กับขนาด ความซับซ้อน ความสูงของเลเยอร์ และการตั้งค่าความเร็วในการพิมพ์
จะเปลี่ยนเครื่องพิมพ์ 3D ให้เป็นไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ได้ยังไง?
คุณสามารถใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติสร้างรายได้ได้หลายวิธี เช่น การขายงานศิลปะ เครื่องประดับ และของสะสมที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยก่อนที่จะขายครั้งแรก ควรทำการวิจัยตลาด วางแผนธุรกิจ และเลือกเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ จากนั้นจึงขายสินค้าที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติของคุณผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เชื่อถือได้อย่าง Shopify
การพิมพ์ 3D เป็นไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ได้จริงหรือไม่?
ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้การพิมพ์ 3 มิติเพื่อทำกำไรจากการขายงานศิลปะ เครื่องประดับ ของสะสม หรือเครื่องประดับสั่งทำพิเศษ กุญแจสู่ความสำเร็จคือการค้นหาช่องทางการตลาดและลูกค้าที่ยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าตรงนี้
เราสามารถปริ้นท์ 3D ขายได้หรือไม่?
ได้ ถ้าคุณมีทักษะการออกแบบที่ดีและประสบการณ์การพิมพ์ 3 มิติบ้าง คุณสามารถพิมพ์และขายรูปทรงแบบไหนก็ได้จากวัสดุหลากหลายประเภท ทางที่ดีที่สุดคือการสร้างดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ลอกเลียนแบบสินค้าที่มีลิขสิทธิ์
อุตสาหกรรมใดบ้างที่ใช้การพิมพ์ 3D?
ผู้ประกอบการสามารถเรียนรู้ไอเดียทำเงินด้วย 3D Printing ในหลากหลายอุตสาหกรรมได้ เช่น การค้าปลีก การผลิต อวกาศ การดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง และหุ่นยนต์


